วันเสาร์ที่ 2 มีนาคม พ.ศ. 2556

ทำงานแบบมืออาชีพ

     มนุษย์เงินเดือนส่วนใหญ่ทำงานโดยต้องทำทั้งในสิ่งที่ตนถนัดและไม่ถนัด  โดยเฉพาะในช่วงเริ่มต้นของอาชีพคนส่วนใหญ่อาจจะมีโอกาสทำในสิ่งที่ถนัดน้อยกว่าสิ่งที่ไม่ถนัดเพราะเราไม่มีโอกาสเลือกมากนัก  คนส่วนใหญ่เริ่มต้นทำงานโดยขอให้ได้งานก่อนซึ่งก็มีเหตุผลเพื่อความอยู่รอด 

หลังจากคุณมีประสบการณ์ระยะหนึ่งคุณก็จะเริ่มรู้จักและเข้าใจตนเองมากขึ้น  หลังจากนั้นจึงเริ่มที่จะมองหางานหรือโอกาสที่จะทำในสิ่งที่ตนเองถนัดมากขึ้นเรื่อยๆ 

ในช่วงสามปีแรกจึงน่าจะเป็นช่วงที่เราค้นหาตนเอง  อย่างไรก็ตามการที่เราจะได้ทำในสิ่งที่เราถนัดนั้นก็ต่อเมื่อมีคนหยิบยื่นโอกาสนั้นให้เรา  แต่ว่าโอกาสอาจจะมาหรือไม่ก็ต้องเดินเข้าหามัน  ดังนั้นเป้าหมายในการทำงานในช่วงต้นคือการสร้างโอกาสให้ตนเองมากกว่าที่จะทำในสิ่งที่ตนเองรักหรือถนัด  เทคนิคเหล่านี้น่าจะช่วยสร้างโอกาสให้คุณได้

ทำงานทุกอย่างที่เราได้รับมอบหมายให้เต็มที่  เพราะนั่นเป็นวิธีเดียวที่เราจะค้นพบว่าเราถนัดหรือไม่ถนัดอะไร  หากเป็นงานที่ถนัดเมื่อเราทำเต็มที่ผลงานมันจะดีกว่าคนส่วนใหญ่หรือค่าเฉลี่ย  หากเป็นงานที่เราไม่ถนัดแม้ว่าจะทุ่มเทอย่างเต็มที่แล้วก็ตามผลลัพธ์อาจจะแค่พอใช้ได้หรือตำ่กว่าค่าเฉลี่ย  อย่าเสียกำลังใจเพราะว่าเราเกิดมามีความถนัดไม่เหมือนกัน  แต่ว่าอย่าทำงานที่ไม่ถนัดแบบ “ขอไปที” เพราะว่ามันจะทำให้คุณดูยิ่งแย่กว่าคนส่วนใหญ่
ทำในสิ่งที่ถนัดให้ดีที่สุดให้มากที่สุด  เพราะจะสร้างโอกาสที่ผลงานของเราไปเข้าตาคนอื่น  นอกเหนือจากงานประจำแล้วให้มองหาโอกาสที่จะอาสาขอทำงานที่ถนัดนอกสังกัดหรือนอกเหนือความรับผิดชอบ  ซึ่งอาจจะหมายถึงการทำงานล่วงเวลาโดยไม่เบิกค่าล่วงเวลา  หรือทำงานในวันหยุด
ทำในสิ่งที่ไม่ถนัดให้เต็มที่  มีคำพูดว่า “มืออาชีพคือคนที่ทำงานให้ดีที่สุดแม้ขณะที่เขาทำในสิ่งที่เขาไม่ชอบก็ตาม” (“A professional is someone who can do his best work when he doesn’t feel like it.” - Alfred Alistair Cooke)  เพราะว่าหากนายหรือคนที่มีอำนาจคนอื่นเขาเห็นว่าขนาดสิ่งที่คุณไม่ถนัดคุณยังพยายามเต็มที่แสดงว่าคุณเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูงคนหนึ่ง
มีวุฒิภาวะสูง  ไม่บ่นเมื่อมีปัญหาแต่มองหาทางแก้ปัญหา  ไม่ตำหนิคนอื่นเมื่อเกิดข้อผิดพลาดแต่มองตนเองก่อนว่าเราน่าจะมีส่วนเป็นสาเหตุได้อย่างไรบ้าง  มองโลกในแง่ดี  ไม่นินาทาคนอื่นลับหลัง  รู้จักที่จะบริหารอัตตาของตนเองไม่ให้มีมากเกินความเป็นจริง
ใฝ่รู้  ไม่ว่าคุณจะจบการศึกษาสูงเท่าไรก็ตามเมื่อคุณเริ่มงานใหม่ในที่ใดก็ตามคุณต้องเรียนรู้ใหม่มากมายไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเนื้องาน  วัฒนธรรมองค์กร  เรื่องการทำงานกับคนใหม่ๆที่คุณไม่รู้จัก  อย่าหวังว่าใครจะมาสอนคุณ  คุณต้องขวนขวาย  ทำการบ้านก่อนไปเริ่มงานโดยศึกษาเกี่ยวกับข้อมูลของคน องค์กร และอุตสาหกรรมที่คุณอยู่ก่อนไปเริ่มงาน  เมื่อไปเริ่มงานแล้วสังเกต ถาม ฟัง อ่าน  และทำงาน  การเรียนรู้ที่ดีที่สุดในการทำงานคือ “การลงมือทำงาน”  อาสา  ของาน  อย่าอยู่เฉย  อย่าเกี่ยง  ยิ่งคุณจบสูงคนยิ่งไม่กล้าใช้งานคุณคุณต้องเสนอตัว นอบน้อม และเต็มใจทำงานได้ทุกอย่าง  หากคุณต้องถ่ายเอกสารก็ขอให้เป็นการถ่ายเอกสารที่ยอดเยี่ยมที่สุดเท่าที่นายคุณเคยเห็นมา


โดย Kriengsak Niratpattanasai

9 ลักษณะของผู้นำที่สำเร็จ

9ลักษณะของผู้นำที่สำเร็จ